สุขภาพ การดูแลสุขภาพ สุขภาพดี ร่างกาย แข็งแรง
อย่างที่เราทราบกันดีว่าถ้าพูดถึงโรคที่คร่าชีวิตของคนเราไปในทุก ๆ วันนี้อันดับหนึ่งเลยนั่นก็คือ โรคมะเร็งและยังเป็นเชื้อร้ายที่ลุกลามไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างรวดเร็วอีกด้วยแต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าผลไม้หลายชนิดที่สามารถที่จะกินเป็นยาป้องกันโรคมะเร็งได้ด้วย ดังนั้นเรามาดูกันว่าจะมีผลไม้ชนิดไหนบ้าง มะขามป้อม ที่เป็นผลไม้ที่มีกรดเอลาจิกและมีวิตามินที่สูงรวมไปถึงกรดฟิลเลมลิกสารฟีนอลที่มีการวิจัยค้นพบแล้วว่ามะขามป้อมสามารถช่วยป้องกันมะเร็งได้ ทับทิม ที่มีทั้งไฟโตนิวเทรียนต์และกรดเอลลาจิก ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นกรดที่สามารถป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในร่างกายเราและช่วยยับยั้งการขยายของเซลล์ที่ผิดปกติที่ก่อให้เกิดเป็นเซลล์มะเร็งได้นั่นเอง มีการยืนยันจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติในอเมริกาว่า สารเอลลาจิกที่มีในทับทิมช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ดีด้วย มะละกอ ที่มีวิตามินอยู่หลากหลายชนิดทั้ง วิตามินซี /ฟอสฟอรัส /เหล็ก / แคลเซียมและเบตาแคโรทีน ที่ช่วยทั้งต้านโรคมะเร็งและบำรุงสายตา ที่ไม่ว่าจะเป็นทั้งมะละกอดิบหรือสุกที่สามารถช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ดีเยี่ยมแถมยังช่วยเข้าไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกที่ยังป้องกันได้ทั้งมะเร็งหลายประเภทเช่น มดลูก / เต้านม /ตับ /ตับอ่อน แก้วมังกร ที่มีการวิจัยแล้วว่าเปลือกแก้วมังกรสีสด ๆ ที่สามารถช่วยป้องกันมะเร็งได้สูงกว่าการทานผลสด ๆ และถ้าทานทุกวันก็จะยังช่วยป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือดอีกด้วย มังคุด ที่จะมีสารที่ชื่อว่า แซนโทน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประเภทหนึ่งที่มีประสิทธิภาพที่สูงมากทีเดียว ยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลายได้ดี ที่สำคัญเป็นสารที่ช่วยต้านมะเร็งได้ขั้นเทพที่ไม่เพียงแต่ทานสด ๆ แต่ยังนำเปลือกไปทำเป็นไวน์ได้อีกด้วย นี่เป็นเพียงแค่ผลไม้บางชนิดที่เรานำมาฝากกันยังมีผลไม้อีกหลายอย่างที่มีคุณประโยชน์ดีๆ เช่นเดียวกันแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพและหมั่นออกกำลังกายทุกวันกันด้วยค่า
วันนี้เรามาเรื่องดี ๆ สำหรับใครที่ไม่ชอบทานปลาที่อาจจะเกิดความกังวลใจได้ว่าถ้าไม่ทานปลาแล้วร่างกายจะได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ได้จากที่ไหนเพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่ากรดไขมันโอเมก้า 3 มีคุณประโยชน์มากมายทั้งช่วยในเรื่องของการพัฒนาสมอง ดีต่อระบบประสาทแถมยังช่วยลดระดับคอลเลสเตอรอลได้ดีอีกด้วย ดังนั้นเราได้รวบรวมอาหารที่มีโอเมก้า 3 เอาไว้ที่นี้ให้แล้วจะมีอะไรบ้าง มาดูกันค่า 1. น้ำมันคาโนลา ที่เรียกได้ว่ามีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่สูงซึ่งจะมีโอเมก้า 3 ชนิดอัลฟ่าไลโนเลอิก หรือ ALA ที่ในหนึ่งช้อนโต๊ะจะมีมากถึง 1,300 มิลลิกรัมเลยทีเดียว สำหรับผู้ชายแนะนำให้ทานอย่างน้อยวันละ 1,100 มิลลิกรัมและผู้หญิง 1,600 มิลลิกรัม 2. น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ ที่จะอุดมไปด้วยกรดอัลฟ่าไลโนเลอิกอยู่เช่นเดียวกันและหากว่าเมื่อได้ทานเข้าไปก็จะเปลี่ยนมาเป็นชนิด DHA ,EPA ถ้าเลือกทานวันละ 2 ช้อนโต๊ะก็เท่ากับว่าร่างกายจะได้รับ ALA ถึง 3,800 มิลลิกรัมซึ่งสามารถนำมาทานได้หลากหลายแบบด้วยกันทั้งทานคู่กับขนมปังหรือใส่ในเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่คุณชอบก็ได้ 3. วอลนัท ที่บอกเลยว่าสำหรับในวอลนัท 30 กรัมที่จะมีโอเมก้า 3 มากถึง 2,600 มิลลิกรัมและสามารถเลือกทานได้หลายแบบด้วยเช่นเดียวกัน 4. […]
สำหรับใครที่เป็นสายเฮลตี้ทั้งหลายคงจะชื่นชอบเมนูที่เราจะมาแนะนำอย่างแน่นอนกับเครื่องดื่มที่จะช่วยล้างพิษในร่างกายได้แถมยังคงให้ความอร่อย สดชื่นกับเมนู น้ำมะนาวโซดานั่นเองที่ช่วยเรื่องของดีท๊อกซ์ได้ดี วันนี้เรามีสูตรน้ำมะนาวโซดามาฝากกันหลายสูตรด้วยกัน ตามมากันเลยค่า สูตรเบสิค ที่หลายคนชื่นชอบมากทีเดียว มาดูกันที่ส่วนผสมกันได้ก่อนเลยค่า น้ำตาลทราย น้ำมะนาวคั้น น้ำ โซดา น้ำแข็ง วิธีการทำ ก่อนอื่นเราจะมาทำน้ำเชื่อม ขั้นแรกนำน้ำตาลทรายและน้ำใส่ลงไปในหม้อและนำไปตั้งไฟโดยที่ใช้ไฟระดับปานกลาง ทำการคนจนละลาย ทิ้งไว้ซักพักรอให้เย็นก่อน ต่อมาใส่น้ำแข็งและน้ำเชื่อม น้ำมะนาวและโซดาลงไป คนทั้งหมดให้เข้ากัน สำหรับสูตรนี้เรียกได้ว่าง่ายมาก ๆ คะ พร้อมทานได้เลย สูตรที่ 2 จะเป็นน้ำผึ้งมะนาว โซดา ใครที่ไม่ชอบดื่มโซดาเพียว ๆ ต้องลองเลยค่ะ มาดูส่วนผสมมีดังนี้ น้ำผึ้ง น้ำมาวนาว น้ำแข็ง โซดา มะนาวฝาน ใบสะแหน่ วิธีการทำ น้ำมะนาวและน้ำผึ้งมาผสมให้เข้ากัน เทลงแก้วที่ใส่น้ำแข็งเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ใส่โซดาลงไปและนำมะนาวที่ฝาน ใบสะระแหน่ เท่านี้ก็พร้อมดื่มฟินๆ กันเลยค่า สูตรที่ 3 จะเป็นแตงโมมะนาวโซดา ที่บอกเลยว่าสูตรนี้ไม่ควรพลาดคะ เพราะมันเข้ากันมากจริง ๆ ส่วนผสมดังนี้ เนื้อแตงโมที่ผ่านการแกะเม็ดออกเรียบร้อยแล้ว นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก […]
เชื่อว่ามีหลายคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาการนอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึกแต่ต้องแหกตาตื่นมาทำงานตั้งแต่เช้าเป็นประจำทุกวัน จนทำให้หน้าตาหม่นหมองไม่สดใส ขอบตาดำคล้ำ อ่อนเพลีย ไม่สดชื่นสำหรับใครที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้เรามาอาหารที่ช่วยบำรุงสำหรับคนที่อดนอนหรือนอนน้อยมาฝากกัน บอกเลยว่ากินแล้วจะให้ความรู้สึกเฟรช ไม่อ่อนล้า สดชื่นมาก 1. ข้าวกล้องงอก ธัญพืช เรียกได้ว่า GABA เป็นสี่งที่ร่างกายของคนเราต้องการจากพวกข้าวกล้องรวมไปถึงธัญพืชและตัวกาบ้าที่จะเป็นตัวช่วยที่จะทำให้สมองปลอดโปร่งทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและยังมีวิตามินบีที่ยังช่วยเรื่องของระบบประสาททำให้สมองเกิดอาการตื่นตัวได้ดี 2. เต้าหู เนื้อปลา ไข่ขาว ไก่ ไข่แดง ถั่วเหลือง ซึ่งอาหารจำพวกนี้จะมีในส่วนของ Choline ที่จะมีส่วนช่วยสร้างเคมีในสมองซึ่งเป็นสารอาการที่จำเป็นอย่างยิ่งในคนที่นอนดึกด้วย ช่วยฟื้นฟูให้สมองที่อ่อนล้ากลับมาสดชื่นและยังสามารถทดแทนเคมีในสมองโดยธรรมชาติของร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ 3. น้ำ อย่างที่เราทราบกันดีว่าน้ำมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่างและการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อที่ร่างกายเราต้องการก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าน้ำจะไปช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกายและยังช่วยให้เรารู้สึกอะเลิท ตื่นตัวได้ดีและควรดื่มน้ำที่มีอุณหภูมิปกติด้วย 4. ผัก ผลไม้ เนื่องจากว่าจะอุดมไปด้วยวิตามินซีและบีและยังมีแร่ธาตุอื่นๆ อีกที่เรียกได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของต่อมไพเนียล ซึ่งถ้าร่างกายเราพักผ่อนไม่เพียงพอต่อตัวนี้ก็จะทำงานไม่ได้ดีทำให้เรารู้สึกมึน ๆ เพลีย ๆ อยู่ตลอดเวลานั่นเอง ฉะนั้นอยากจะเฟรชตลอดเวลาเลือกทานผัก ผลไม้ที่บอกเลยว่าช่วยได้จริง ๆ 5. เลือกทานอาหารที่จะโปรตีนไม่ว่าจะเป็น นม โฮลเกรน ยิ่งในมื้อเช้าและเที่ยงจะช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกมีพลังที่จะสามารถนำไปใช้ระหว่างวันได้ รู้แบบนี้แล้วใครที่รู้สึกร่างกายอ่อนแรง ไม่สดชื่น อดนอนบ่อยก็ไปหามาจัดกันเลยค่า รับรองสดชื่นแน่
เรียกได้ว่าใคร ๆ ก็ไม่อยากแก่ก่อนวัยกันทั้งนั้นแต่เราทุกคนก็อาจจะฝืนธรรมชาติไปได้แต่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องปล่อยให้ตัวเองแก่ เหี่ยวไปตามวันเวลา ดังนั้นเราสามารถที่จะชะลอความแก่ได้บางคนอาจจะต้องไปพึ่งการทำศัลยกรรมแต่สำหรับใครที่แอนตี้เรื่องนี้วันนี้เรามีวิธีการต้านริ้วรอยก่อนวัยด้วยวิธีการง่าย ๆ ทำได้ด้วยตัวเองดังนี้ 1. เนื่องจากด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ผิวของเราก็จะถูกทำลายลงไปเรื่อยๆ ด้วยที่เรียกกันว่า ทำลายดีเอ็นเอแต่ถึงแม้ว่าเราจะหยุดยั้งไม่ได้แต่เราสามารถที่จะชะลอได้ด้วยการเลือกทานผลไม้ในประเภทตระกูลเบอร์รี่ยิ่งถ้าเป็น บลูเบอร์รี่ที่จะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยในเรื่องของการต้านริ้วรอยได้เป็นอย่างดี 2. ควรเลี่ยงน้ำตาลเพราะได้มีการวิจัยแล้วว่าการที่เราทานน้ำตาลนั้นจะเป็นการเร่งความแก่และยังทำให้ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส แห้งกร้าน เกิดริ้วรอยได้ง่าย ดังนั้นก็ควรเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล 3. ควรนอนด้วยท่าที่ถูกต้องเพราะว่าการนอนคว่ำจะทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยได้ง่าย ควรนอนหงายจะดีที่สุดเพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย 4. ทานแคลเซียมให้เพียงพอต่อร่างกายเพราะจะเป็นตัวช่วยในการชะลอความชรา 5. ดื่มชาเขียวเป็นประจำเพราะจะช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวช่วยให้ผิวของเราดูอ่อนกว่าวัยและชาเขียวยังช่วยลดรอยแดงดำ ลดการระคายเคืองผิว ถ้าคุณดื่มเป็นประจำก็จะทำให้ผิวสุขภาพดี เด้งดึ่ง เต่งตึงดูเด็ก 6. ใช้เวลาในการอาบน้ำให้เร็วขึ้นเพราะยิ่งถ้าแช่น้ำเป็นเวลานานหรืออาบน้ำนานจะทำให้ผิวยิ่งสูญเสียความชุ่มชื้น ผิวแห้งตึง ซึ่งจะยิ่งทำให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น 7. เลี่ยงแดด เพราะแสงแดดเป็นตัวการที่ทำลายผิวให้เสื่อมโทรม แก่ก่อนวัย ดังนั้นควรทาครีมกันแดดทุกครั้งเพื่อป้องกันผิวจากรังสี UV 8. ข้อสำคัญที่สุดคือ ห้ามเครียดเพราะว่าความเครียดจะเป็นตัวบ่อนทำลายทั้งผิวและสุขภาพ ดังนั้นเลือกเป็นการนั่งสมาธิจะทำให้จิตใจผ่องใส ผ่อนคลาย จะช่วยให้คุณรู้สึกดี ลดความตึงเครียดลงได้และมันจะส่งผลต่อผิวโดยตรงนั่นเองคะ ลองทำกันดูนะคะ วิธีง่าย ๆ ที่บอกเลยว่ามันเห็นผลจริง ๆ คะแล้วคุณจะสวยจากภายในสู่ภายนอกกันเลยทีเดียวค่า
หากว่าตอนนี้ใครที่กำลังประสบกับปัญหาเรื่องการนอนไม่เพียงพอและรู้สึกว่าร่างกายอ่อนล้า อ่อนเพลียจนเกิดการเหนื่อยล้าสะสมมายาวนาน เนื่องจากทุกวันนี้เราต้องยอมรับกันทุกคนได้เลยว่า ตั้งแต่ในยุคของโลกอินเตอร์เน็ตและโลกออนไลน์เข้ามาครองโลกอยู่ตอนนี้นั้นเราปฎิเสธไม่ได้เลยว่าแต่ละคนก็ติดมือถือกันถึงขนาดที่แทบจะวางโทรศัพท์ไม่ได้เลย ถึงเวลานอนก็ไม่ได้นอนอย่างเต็มที่ การกระทำเหล่านี้เองที่ยิ่งจะทำให้เราเกิดอาการมึน เพลียง่าย หากว่านอนไม่ครบ 8 ชั่วโมงต่อวัน แต่เรามีวิธีที่สามารถช่วยให้ความรู้สึกอ่อนล้าลดลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ คือ การงีบหลับเป็นระยะ ๆ เพราะว่ามันสามารถช่วยลดที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงที่ทำให้หัวใจเกิดภาวะล้มเหลวได้ ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน ลดอาการที่เกี่ยวกับเรื่องของระบบความดันโลหิต และยังช่วยในเรื่องที่คิดไม่ถึงอย่างช่วยเรื่องลดน้ำหนักได้อย่างดีอีกด้วย ในเวลาที่คุณเกิดอาการอ่อนล้า อ่อนเพลียขึ้นมาก็ใช้เวลางีบหลับซัก 20 นาทีที่ทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี่กระเป่าขึ้นมาได้ มันจะเหมือนเป็นการเติมความสดชื่นให้แก่ร่างกาย แถมยังช่วยลดในเรื่องของความอยากอาหารได้ด้วย แต่ถ้างีบหลับเป็นเวลาที่ยาวมากหรือ 30 นาทีขึ้นไปก็จะส่งผลให้ร่างกายนั้นมึนได้ ฉะนั้นต้องแค่งีบแบบพอดี ๆ เพราะไม่อย่างนั้นก็จะได้อาการปวดหัวตามมาได้ แต่ถ้าได้มีการงีบหลับชั่วโมงขึ้นไปมันจะช่วยส่งผลดีในเรื่องของความจำและเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้และทำให้สมองปลอดโปร่งขึ้นได้ และการงีบหลับตั้งแต่ 90 นาทีขึ้นไปจะช่วยในเรื่องที่ทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้
ปัจจุบันเรื่องของการลดน้ำหนักกำลังเป็นที่นิยมในทุกหมู่ทั้งดารา นางแบบ วัยรุ่นที่ต่างชื่นชอบที่จะมีหุ่นผอมเพรียวไร้ไขมัน ซึ่งเราก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนที่มีรูปร่างที่ดีย่อมน่ามองกว่าคนอ้วนและคนที่มีรูปร่างที่สวยงาม ผอมเพรียวก็ย่อมมีต้นทุนที่ดีกว่าอยู่แล้ว ดังนั้นจึงทำให้ผลิตภันฑ์เกี่ยวกับการลดน้ำหนักออกมาขายตามท้องตลาดอยู่มากมายหรือแม้แต่ที่ขายทั่วไปตามไอจีหรือเฟสบุคแต่มันก็ดูจะเป็นการเสี่ยงต่อผู้บริโภคที่ในปัจจุบันนี้มีทั้ง อ.ย ปลอมและสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานออกมาเกลื่อนตลาด และนั่นก็หมายถึงว่า ถ้าเราอยู่ในฐานะผู้บริโภคก็มีความเสี่ยงที่สูงและเป็นอันตรายต่อตัวเองมากทีเดียวที่เราจะเลือกใช้แบรนด์หรือผลิตภันฑ์ที่ไม่มีคุณภาพและตรวจสอบไม่ได้ แต่วันนี้เรามีวิธีการลดน้ำหนักแบบที่ไม่ต้องพึ่งยามาฝากกันซึ่งหากว่าคุณปฎิบัติได้ตามนี้ก็สามารถช่วยเรื่องลดน้ำหนักไดแน่นอน ช่วงเช้าถ้าหากว่าคุณเกิดความหิวขึ้นมาก็ให้ทานแตงโมเย็น ๆ กับน้ำเปล่าในปริมาณที่เยอะ ๆ ด้วยแตงโมนั้นมีรสหวานและมีโมเลกุลของน้ำตาลที่เล็กที่จะทำให้ร่างกายเราดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว และสมองของคนเราก็มีความต้องการน้ำตาลในปริมาณต่อวันถึง 120g ฉะนั้นการทานแตงโมและน้ำเย็นจะเป็นการเพิ่มแมตตาบอริซึมและการเผาผลาญของร่างกายที่ดีขึ้นและทำให้ร่างกายช่วยขับไขมันส่วนเกินออก เพราะร่างกายจะต้องมีการรักษาอุณหภูมอยู่ที่ 37 องศา ถ้าหากว่าใครไม่ชอบทานแตงโมก็สามารถทานชมพู่แทนได้นะคะแต่ควรงดจำพวก ฝรั่ง มะม่วง เพราะว่ามันมีแป้ง ช่วงกลางวันก็เลือกเป็นจำพวกเกาเหลา บ่าย ๆ ก็จัดเป็นแตงโมเหมือนเดิม เย็น ๆ ก็จัดเป็นพวกไข่ต้ม 2 ฟองเลือกกินแต่ไข่แดง ลองทำตามนี้กันดูได้นะคะ รับรองได้หุ่นเพรียวสวยแน่นอน
ร่างกายของคนเราก็จำเป็นที่ต้องได้รับการล้างสารพิษหรือเรียกว่าการ ดีท็อก (DETOX) ร่างกายนั่นเองและถ้าพูดถึงเรื่องนี้เราก็จะต้องมองหาอาหารที่จัดได้ว่าเป็นยาที่ดีที่สุดที่จะช่วยล้างสารพิษในร่างกายให้เราได้ประสิทธิภาพที่ดีที่หากว่าใครได้ทำการดีท็อกแล้วมันจะช่วยในเรื่องของผิวพรรณ ตับ ลำไส้ และป้องกันการเกิดสารพิษที่จะก่อตัวเพิ่มขึ้นได้ ด้วยการรับประทานอาหาร ผัก ผลไม้ง่าย ๆ ดังนี้ 1. อะโวคาโด้ ที่คนเข้าใจกันว่ามันเป็นแค่อาหารคลีนซึ่งในความเป็นจริงแล้วอะโวคาโด้เป็นแหล่งอาหารที่ทรงพลังและยังมีคอเลสเตอรอลต่ำที่จะช่วยทำปิดกั้นสารพิษเข้ามาทำลายได้ ทั้งยังช่วยต้านสารก่อมะเร็งได้ด้วย 2. แอปเปิ้ล ที่อุดมไปด้วยเพคตินที่เป็นเส้นใยอาหารที่สามารถดักจับคอเลสเตอรอลได้ ช่วยในการกำจัดสารพิษและล้างลำไส้ได้ 3. บลูเบอรี่ เพราะมันมมีแอสไพรินตามธรรมชาติที่ช่วยลดผลกระทบเรื่องของเนื้อเยื่ออักเสบเรื้อรัง และยังด้านเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสะวะได้อีกด้วย 4. กะหล่ำปลี ที่มีสารต้านมะเร็งอยู่หลายชนิดมาก ช่วยให้ตับทำลายฮอร์โมนส่วนเกินออกไป ลดสารพิษจากควันบุหรี่ ล้างสารพิษในตับได้ด้วย 5. แครนเบอร์รี่ ที่ช่วยล้างพิษร่างกายจากแบคทีเรีย ช่วยต่อต้านไวรัสในธรรมชาติได้ด้วย 6. กระเทียม ช่วยบ้างแบคทีเรียที่เป็นพิษออกไปได้และยังรวมไปถึงพยาธิลำไส้ ไวรัสต่าง ๆ ต้านอนุมูลอิสระช่วยล้างพิษจากสารอันตรายภายในร่างกาย 7. เกรปฟรุต หากว่าทานทุกเช้าทำให้ร่างกายได้ประโยชน์ที่จะช่วยดักจับคอเลสเตอรอล ล้างพิษในตับและล้ำไส้ได้เป็นอย่างดี