การจำนองบ้าน
อสังหาริมทรัพย์

การจำนองบ้าน ระหว่าง ธนาคาร /บุคคล/บริษัท แตกต่างกันอย่างไร

Posted on Author STRUCTURE FUNDING Comments Off on การจำนองบ้าน ระหว่าง ธนาคาร /บุคคล/บริษัท แตกต่างกันอย่างไร

การจำนองบ้าน

เรื่องของการจำนองบ้านเราจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่ไกลตัวแต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวที่เราจำเป็นจะต้องมีความรู้เอาไว้  ที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงื่อนไขในการทำธุรกรรมอย่าง เช่น เราต้องการที่จะได้แบบอนุมัติไว ดอกเบี้ยดีที่สุด เป็นต้น

ในปัจจุบันนี้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่มีคนนิยมทำกันมากที่สุดประเภทหนึ่งเลยก็ว่าได้และนิยมที่จะจำนองบ้านไว้กับธนาคาร เพราะมันจะได้วงเงินที่สูงกว่าเอาไว้กับนิติบุคคลหรือบริษัท เรามาดูว่ามันมีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

จำนองบ้านกับธนาคาร

การจำนองบ้านกับธนาคาร ได้รับความนิยมมากที่สุดที่ให้ดอกเบี้ยต่ำและได้วงเงินที่สูงกว่าบุคคลและบริษัท

  • ผู้ยื่นต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติและกฎเกณฑ์ตามที่ธนาคารกำหนด
  • ต้องมีรายได้ตามที่ธนาคารกำหนด
  • ระยะเวลาในการอนุมิตจะอยู่ที่ประมาณ 10 วัน

การจำนองบ้านกับบุคคล

การจำนองบ้านกับบุคคล  ที่ในปัจจุบันนักลงทุนบุคคลมาทำตลาดด้วยตัวเอง

  • การเขียนสัญญาระบุวงเงินจริง( ไม่รวมดอกเบี้ย)
  • ดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนดคือร้อยละ 1.25 ต่อเดือนหรือไม่เกิน 15 % ต่อปี
  • ไม่ควรทำเอกสารสัญญาโอนไว้กับนักลงทุนเพราะถือว่ามีความเสี่ยงสูง

การจำนองบ้านกับบริษัท

การจำนองบ้านกับบริษัท ที่ถือได้ว่าอนุมัติไว รับเงินได้ไวกว่าและสามารถรู้ผลได้ภายในเวลาแค่ 3 ชั่วโมงจึงมีความนิยมรองจากธนาคาร

  • สัญญาจำนองสามารถบังคับจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยหรือว่าตกลงจ่ายแบบทบต้นและดอกเบี้ยได้ในระยะเวลาที่ตกลง
  • ผู้กู้จะต้องมีชื่อตามหลังโฉนด
  • สัญญาจำนองไม่สามารถที่จะยึดทรัพย์ได้

Related Articles

ความเสี่ยงในการลงทุน อสังหาริมทรัพย์
อสังหาริมทรัพย์

4 ความเสี่ยงในการลงทุน อสังหาริมทรัพย์

Posted on Author STRUCTURE FUNDING

สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกที่จะตัดสินใจทำธุรกิจอะไรซักอย่างแน่นอนว่าเราต้องนำถึงคำนี้ขึ้นมาในหัวแน่นอนก็คือ การลงทุนมีความเสี่ยงดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนอะไรก็ต้องมีการศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเพราะว่าความส่วนใหญ่แล้วคนมักจะมองข้ามเรื่องนี้แต่กลับไปมองถึงผลตอบแทนเท่านั้น  วันนี้เราเลยหยิบยกเรื่องของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์มาให้ได้ดูเป็นตัวอย่างว่าความเสี่ยงมันมีอะไรบ้าง 1. ความเสี่ยงทางธุรกิจ (Business Risk)  ที่ถือได้ว่าเป็นความเสี่ยงโดยตรงที่เกี่ยวกับตัวธุรกิจทั้งเรื่องของกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงของนโบบายของรัฐบาล เช่น เกี่ยวกับนโยบายบ้านหลังแรกซึ่งมันสามารถที่จะเป็นตัวแปรสำคัญที่แน่นอนว่ามันจะต้องส่งผลกระทบต่อธุรกิจหรืออาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคก็ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบด้วยกันทั้งนั้น 2. ความเสี่ยงในด้านการเงิน (Financial Risk) ที่เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเพราะว่าอสังหาริมทรัพย์จัดว่าเป็นธุรกิจที่ใช้เงินในการลงทุนที่สูงและถ้าพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับแหล่งของเงินกู้ก็จะต้องมาจากสถาบันการเงินดังนั้นเรื่องของอัตราดอกเบี้ยก็เป็นส่วนที่สำคัญในอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว 3. ความเสี่ยงทางด้านของกำลังซื้อ (Purchasing Power) เนื่องด้วยต้องใช้เงินลงทุนที่สูงอยู่แล้วฉะนั้นมันจึงกลายเป็นความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการจ่ายชำระเงินที่กู้มาให้แก่เจ้าหนี้ของธุรกิจที่ได้มีการกู้ไว้และยิ่งถ้าเศรษฐกิจตกต่ำย่ำแย่ก็ทำให้คนมีกำลังซื้อที่น้อยลงตามไปด้วย 4. ความเสี่ยงในด้านสภาพคล่อง ( Liquidity Risk) เพราะว่าอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์ที่ถือว่ามีสภาพคล่องที่ต่ำและถ้าคิดถึงเรื่องการซื้อขายก็เป็นไปได้ค่อนข้างช้าและใช้เวลานานดังนั้นจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงเรื่องเงินหมุนเวียนเพียงพอหรือไม่ด้วย

อสังหาริมทรัพย์
อสังหาริมทรัพย์

อสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุน น่าสนใจ ปี 2562

Posted on Author STRUCTURE FUNDING

ใครที่เป็นนักลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว หรือจะเป็นนักธุรกิจอื่นๆ เช่น หุ้น นักลงทุนอิสระ และอื่นๆอีกมากมาย การลงทุนไม่ว่าจะเป็นในทางไหน ความเสี่ยงมันก็มีอยู่ในตัวไม่มากก็น้อย ยิ่งตอนนี้มีทั้ง นักลงทุน อสังหาริมทรัพย์ หน้าเก่าและหน้าใหม่ เข้ามาเรื่อยๆ และมีความสนใจในทางด้านนี้มากขึ้น เพราะว่าการลงทุนอสังหาริมทรัพย์สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล โดยใช้เงินลงทุนแค่น้อยนิดเท่านั้น วันนี้จะมาสรุปวิธีรวยและสร้างรายได้กับอสังหาริมทรัพย์ ที่ง่ายและสะดวกพร้อมใช้ได้กับทุกท่าน 1. ลงทุนแบบซ่อมแล้วปล่อยขาย เป็นสิ่งที่เราจะได้กำไรจากการลงทุนแบบนี้มากที่สุดที่ต้องคำนึงมากที่สุดก็คือสภาพบ้านมีโครงสร้างที่แข็งแรง  และราคาถูกกว่าท้องที่ตลาด อุปกรณ์ในการสร้างนั้นต้องมีคุณภาพดีและราคาถูก 2. ลงทุนแบบเก็งกำไร หากคุณเป็นนักลงทุนมือใหม่สามารถใช้วิธีนี้ได้ ง่ายๆคือซื้อใบจองแล้วปล่อยขายก็ได้กำไรมาแบบง่ายๆ แต่ก็ต้องรู้เทคนิคและรู้เรื่องทำเลได้เป็นอย่างดี 3. ลงทุนแบบประกอบการ โดยใช้เงินตัวเองลงทุนให้น้อยที่สุดโดยจะต้องติดต่อเจ้าของที่ดินที่ไม่ต้องลงทุนซื้อที่ดิน และคุณจะเสียเพียงแค่ค่าก่อสร้างเท่านั้นหากขายได้ก็คือกำไรของเรา 4. ลงทุนปล่อยเช่ารายเดือน แบบนี้เรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานของนักลงทุนเริ่มจากการที่คุณ สร้างตึก อาคารพาณิชย์ หรือห้องเช่า ปล่อยเช่าและเก็บแบบรายเดือน รายวัน แทบไม่ต้องออกแรงเลยกับวิธีนี้ 5. ลงทุนด้วยการเป็นนายหน้า  โดยการหาผู้ซื้อ ผู้ขาย ที่มีความต้องการซื้อขายที่ดินต่างๆ โดยจะติดต่อกันผ่านตัวเรา และนักลงทุนก็จะได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายนั่นเอง