วัดไร่ขิง พระอารามหลวง ตั้งอยู่ที่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำท่าจีนหรือที่รู้จักกันว่า แม่น้ำนครชัยศรี ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดย สมเด็จพุทธฒาจารย์ ถือว่าเป็นวัดที่ชาวจังหวัดนครปฐมศรัทธาและให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมากและยังมีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ในช่วงของเทศกาลตรุษจีนของทุกปีและในระหว่างวันขึ้น 13 ค่ำถึงแรก 3 ค่ำ เดือน 5 วัดก็จะมีงานเทศกาลนมัสการปิดทองหลวงพ่อวัดไร่ขิง จากอดีตวัดแห่งนี้เป็นวัดราษฎร์แต่ในปัจจุบันได้ยกระดับขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ
วัดไร่ขิง อยู่ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 32 กิโลเมตรถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 และได้มีการอัญเชิญพระพุทธรูปจากวัดศาลาปูนมาประดิษฐานไว้ที่นี้แต่ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า หลวงพ่อวัดไร่ขิง มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 4 ศอก 2 นิ้วเศษ สูง 4 ศอก 16 นิ้วเศษ แต่เดิมมีการสันนิษฐานกันว่าถูกสร้างขึ้นมาจากฝีมือของช่างในสมัยล้านนา ล้านช้างและได้มีการเล่าขานสืบต่อกันมาว่าได้ลอยน้ำมาจึงได้มีการอัญเชิญขึ้นมาไว้ที่วัดศาลาปูน
ภายหลังได้รับพระราชาทานจาก สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส โดยให้นามว่า วัดมงคลจินดาราม (ไร่ขิง) แต่ต่อมาก็ได้เรียกขานกันว่า วัดไร่ขิง มาจนถึงปัจจุบัน วัดแห่งนี้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่นิยมเดินทางมากราบหลวงพ่อวัดไร่ขิงอย่างไม่ขาดสายและทุกวันอาทิตย์ทางวัดก็จะมีตลาดนัด มีสินค้า อาหาร มีชาวสวนพายเรือนำผัก ผลไม้มาขายบริเวณหน้าโบสถ์ด้วย มีบริเวณที่ให้ได้ซื้อขนมปังไปเลี้ยงปลาหลายพันตัวที่อาศัยอยู่แม่น้ำและยังมีบ่อปลาคราฟพร้อมกับจุดที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจที่สงบร่มรื่น
เหตุผลของชื่อวัดแห่งนี้มีตำนานเล่าสืบทอดกันมากว่า จากอดีตภายในวัดจะมีพวกชาวจีนที่อาศัยอยู่บริเวณนี้เป็นจำนวนมากและก็ยังให้ความนิยมปลูกขิงจึงทำให้เป็นเหตุที่มาของที่นี้ต่อมาในปี 2554 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพรบาวชิรญานวโรรส วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ ได้เสด็จเดินทางเข้ามาที่วัดไร่ขิงจึงได้มีการตั้งชื่อให้ขึ้นมาใหม่ว่า “วัดมงคลจินดาราม” แต่ก็ยังคงให้ใส่วงเล็บชื่อเดิมต่อท้ายไว้ด้วย
ยังมีตำนานของชาวเมืองนครปฐมที่เล่าขานกันว่า ในอดีตมีพระ 3 องค์ได้ลอยน้ำขึ้นมาพร้อมกันพร้อมกับแสดงปาฏิหารย์ที่จะเข้าไปย้านศรีมหาโพธิ์ที่มีต้นโพธ์ใหญ่อยู่ ซึ่งทำให้ได้มีการเรียกกันว่า ตำบลบางพระและพระพุทธรูปทั้ง 3 ที่ได้ลอยไปถึงปากน้ำท่าจีน แต่ก็ยังคงกลับลอยทวนน้ำขึ้นมาใหม่ทำให้เรียกตำบลนั้นว่า สามประทวน เมื่อชาวบ้านได้ช่วยกันชักพระขึ้นฝั่งแต่กลับไม่ประสบผลสำเร็จและต้องตากแดดตากฝนจึงได้เรียกกันว่า “บ้านลานตากฟ้า” และ “บ้านลานตากแดด”
แต่ท้ายที่สุดแล้วพระพุทธรูปองค์แรกก็ขึ้นมาสถิต ณ วัดไร่ขิง เลยทำให้เรียกกันว่า “หลวงพ่อวัดไร่ขิง” สำหรับในองค์ที่ 2 ที่ได้มีการลอยน้ำขึ้นไปสถิต ณ วัดบ้านแหลม จ.สมุทรสงคราม จนมีการเรียกกันว่า “หลวงพ่อบ้านแหลม” ต่อมาองค์ที่ 3 ที่ได้ลอยน้ำไปยัง จ.เพชรบุรีและสถิตขึ้นที่วัดเขาตะเครา ที่เรียกกันว่า “หลวงพ่อตะเครา”
ภายในวัดจะมีการแบ่งกันออกเป็นสองส่วน คือ เขตศาสนสถานและเขตสาธารณสถานที่จะเป็นพื้นที่ของโรงพยาบาลและโรงเรียนและมีพิพิธภัณฑ์ของเก่า เช่น หนังสือ ถ้วยเก่า มีให้ได้ชมกันมากมาย สามารถเดินทางมารับชมกันได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00-16.00 น.
รายละเอียด เฟสบุ๊ค : วัดไร่ขิง พระอารามหลวง
