1.มิติใหม่ของการเล่น
ยุคก่อนของฟุตบอลไทยเราได้เห็นการเข้าทำที่ไม่ค่อยหลากหลายมากเท่าไหร่นัก แต่ 2 เกมที่ นิชิโนะ ทำออกมาถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงและมีมิติใหม่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้กองหน้าตัวหลอก และมีการเล่นบอลที่ไหลลื่นมากขึ้น
2.กองกลางตัวแกร่ง พิธิวัต กับ สารัช
นิชิโนะ ได้จับ พิธิวัต สุขจิตรธรรมกุล และ สารัช อยู่เย็น มาเล่นตำแหน่งกองกลางแบบเข้าขากันสุดๆ ทั้งเกมรับและเกมรุก นับว่าเขาทั้งสองคนมีผู้ปิดทองหลังพระในเกมที่ ไทย พบกับ อินโดนีเซีย อย่างแท้จริง
3.ความหวังใหม่
ต้องบอกได้ว่าปัจจุบัน นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่นรายแรกของไทย กลายมาเป็นความหวังที่จะพาทีมชาติไทยไปสู่ฟุตบอลโลกได้แล้ว หลังจากที่เขาเคยมีผลงานเคยพาทีมชาติ ญี่ปุ่น ทะลุเข้ารอบฟุตบอลโลก 2018 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
4.ปั้นดาวรุ่ง
หลายคนคงจะเห็นแล้วว่าอายุไม่เกี่ยวกับฟอร์มการเล่น ถ้าคุณมีฝีเท้าที่ดีจะอายุแค่ไหนก็ตามก็สามารถขึ้นสู่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้ ดังนั้นเห็นแล้วว่า นิชิโนะ กล้าที่จะส่งดาวรุ่งอย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา และ ศุภโชค สารชาติ ลงสนามเป็นตัวจริง อีกทั้งยังโชว์ฟอร์มออกมาได้ยอดเยี่ยมอีกด้วย
